เทคโนโลยี IoT คืออะไร? สามารถเปลี่ยนชีวิตในอนาคตได้จริงหรือ?

หากมองรอบๆ ตัวเราก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทต่อการดำรงชีวิตประจำวันอย่างหลากหลาย และยังช่วยทำให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายท่ามกลางความรีบเร่งของสังคม ดังนั้นการหยิบเอา IoT หรือ Internet of Things เข้ามาช่วยให้ชีวิตมีความคล่องตัวและง่ายมากขึ้นถือว่าเป็นเรื่องที่สามารถตอบโจทย์ความเป็นอยู่ได้อย่างชัดเจนและยังมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วอีกด้วย 

IoT คืออะไร

ถ้ารู้แบบนี้แล้วเรามาทำความรู้จัก IoT กันให้มากขึ้นดีกว่าว่าคืออะไร IoT หรือ Internet of Things นั้นถือเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยทำให้อุปกรณ์ต่างๆ มีความสะดวกสบายมากขึ้น ช่วยเชื่อมต่อการสั่งการของมนุษย์กับสิ่งของผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้เราสามารถนำมาใช้ให้ได้ประโยชน์สุงสุด 

การทำงานของ IoT คือการนำ Software ไปติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์ที่เราต้องการ เช่น รถยนต์ กล้องวงจรปิด อุปกรณ์สื่อสาร เป็นต้น แต่ต้องมีตัวกลางเพื่อให้สามารถจัดการและเชื่อมต่อแบบมีระบบ สามารถตั้งค่าได้ รวมถึงการรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์โดยสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ อินเตอร์เน็ต นั่นเอง เพื่อต้องใช้เป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ในการใช้สั่งการ ซึ่งสามารถสั่งการในระยะไกลและการใช้วิธีตั้งค่าให้เกิดการทำงานแบบอัตโนมัติได้ด้วย

ตัวอย่างของการใช้ IoT ในชีวิตประจำวัน

• IoT in Behavior เป็นการนำ IoT มาใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันเกี่ยวกับพฤติกรรม การใช้ชีวิต ยกตัวอย่างเช่นการใช้ Smart Watch ซึ่งสามารถทำงานได้หลากหลายฟังก์ชั่น นอกจากการเป็นนาฬิกาแล้วคนที่รักการออกกำลังกายยังสามารถนำไปนับอัตราการเต้นของหัวใจได้ด้วย
• IoT in Home เป็นการนำเทคโนโลยีไปใช้ควบคุมอุปกรณ์ในบ้าน เช่น การติดตั้งแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อควบคุมการทำงานเปิด-ปิด
• IoT in Office การนำเทคโนโลยีไปใช้กับการทำงานเช่น นำไปใช้ควบคุมการเปิด-ปิดจอโปรเจคเตอร์อาจจะเชื่อมต่อกับโปรแกรมผ่านโทรศัพท์หรือการสั่งงานผ่านระบบต่างๆ
• IoT in Vehicle การใช้ IoT ในระบบรถยนต์ อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักแต่สามารถนำไปติดตั้งอุปกรณ์ที่จะสามารถช่วยเหลือในยามที่เกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน เรียกรถพยาบาลตามที่มีการตั้งค่าไว้

มาดูประโยชน์ของ IoT ว่ามีอะไรบ้าง?

• การสั่งงานระยะไกล เนื่องจากเราสามารถติดตั้งอุปกรณ์และควบคุมการทำงานได้จากระยะไกลได้
• การเพิ่มความปลอดภัยในการดำรงชีวิต สามารถใช้เทคโนโลยีตั้งค่าแบบอัตโนมัติและควบคุมเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
• ช่วยประหยัดพลังงานและค่าใช้ง่าย สามารถนำไปใช้กับการควบคุมในการปิดอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน
• อำนวยความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิต เนื่องจากสามารถตั้งค่าการทำงานได้ตามเวลาที่เราต้องการ

อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่

Recap

เห็นได้ว่าเทคโนโลยี IoT สามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับการใช้ชีวิตประจำวันได้แบบหลากหลายมาก และแน่นอนว่าเราจะยิ่งเห็น IoT แบบนี้ไปเรื่อยๆ ซึ่งข้อดีคือการเชื่อมต่อที่ฉับไวจะช่วยให้เรามีความสะดวกสบายมากขึ้น ส่วนข้อเสีย Internet Of Things ก็คือเพิ่งพาระบบอินเทอร์เน็ตทั้งหมด หากไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต​ได้อาจเกิดปัญหาการตั้งค่าหรือสั่งงานต่างๆ ตามมา