เดี๋ยวนี้หายใจเข้าออกอะไรก็เป็นเรื่องของโลกออนไลน์ อย่างการทำเว็บไซต์เมื่อก่อนเป็นเรื่องของโปรแกรมเมอร์ นักเขียนเว็บ แต่เดี๋ยวนี้คนที่ไม่มีความรู้ก็สร้างเว็บเองได้ง่ายๆ เลยแหละ แต่ก่อนจะไปถึงขั้นตอนนั้น ก็ต้องมีความรู้พื้นฐานก่อนนะ จะได้เอาไปพัฒนาต่อยอดความรู้ต่อได้
เราเลยจะขอพาไปรู้จัก 15 คำศัพท์เกี่ยวกับเว็บไซต์ ที่ช่วยให้ทุกคนเข้าใจเรื่องการเขียนเว็บผ่าน WordPress มากขึ้น มีอะไรบ้างนั้น ไปดูกัน!
Responsive Web Design คือ
คือ การทำเว็บไซต์ให้สามารถแสดงผลได้ดี ใช้งานดีและลื่นไหลได้บนขนาดของหน้าจอต่างๆ เพื่อให้ข้อมูลเข้าถึงผู้ชมได้อย่างง่าย ไม่ว่าพวกเขาจะเสิร์ชหาข้อมูลจากช่องทางไหน เช่น คอมพิวเตอร์ Desktop, Notebook, Tablet หรือจะ Mobile ก็สามารถรับข้อมูลได้อย่างเหมาะสมและสมบูรณ์มากที่สุด
WordPress คือ
คือ หนึ่งในระบบ CMS หรือ Content Management System ที่นิยมกันมากที่สุดในโลก เป็นซอฟต์แวร์ที่เราสามารถล็อกอินเข้ามาดูแลจัดการได้ เหมาะสำหรับคนทำเว็บเป็นอย่างมาก ด้วยเพราะ WordPress เป็น CMS ที่พัฒนาต่อได้ง่าย ทำให้มีนักพัฒนาทั่วโลกออกมาพัฒนา Plug-ins ให้เราสามารถเลือกใช้กันอย่างมากมาย นอกจากนี้ยังสามารถ ปรับแต่งสร้าง Theme หรือ Template ได้ง่ายอีกด้วย
Domain Name & Hosting/Web Server คืออะไร ต่างกันยังไง
Domain Name & Hosting และ Web Server ต่างๆ เป็นพื้นที่การทำงานบนเว็บไซต์ ซึ่งวันนี้เราจะอธิบายความแตกต่างให้ทุกคนได้รู้กัน โดยเริ่มจาก
หาก Hosting เปรียบเสมือนบ้าน ดังนั้น Domain Name ก็คือ ชื่อที่อยู่บ้าน โดย Hosting คือ พื้นที่ที่เจ้าของโครงการบ้านนั้น จะเตรียมตัวบ้าน และทรัพยากรที่จำเป็นต่างๆ ให้เหมาะสมกับคุณ และยังเป็น ผู้ที่คอยช่วยเหลือคุณ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นด้วย ส่วน Domain Name คือ ชื่อที่อยู่บ้าน หรือการความแตกต่าง และบ่งบอกความเป็นตัวคุณ ซึ่งชื่อ Domain Name นั้น จะต้องไม่ซ้ำเว็บอื่นๆ ถึงจะใช้เป็น .com ได้ นอกจากนี้ยังมีนามสกุลอื่นๆ ที่เป็นตัวเลือก ให้เราสามารถเลือกใช้ได้ไม่แพ้ .com เลย เช่น .co .io เป็นต้น
ส่วน Web Server เปรียบเสมือนกับพื้นที่เช่า หรือซื้อมาเพื่อใช้งาน ซึ่งมีให้เลือกหลากหลาย ตามที่เหมาะกับเรา เช่น Shared Hosting เป็น พื้นที่เว็บไซต์ ที่ต้องไปแชร์บ้านเช่ากับคนอื่นๆ ซึ่งหากใครทำให้บ้านเช่านี้เกิดไม่ดี เราก็อาจโดนผลกระทบไปด้วย ซึ่งข้อดีคือ ที่มีราคาถูกมาก
Cloud Hosting เป็น พื้นที่เว็บไซต์ ที่เราเป็นเจ้าของบ้านแต่เพียงผู้เดียว จึงทำให้เราสามารถปรับแต่งอะไรได้ง่ายๆ เพียงแต่มีราคาที่แพงกว่า และต้องมีความรู้เรื่องของ Server พอสมควร หรือ Cloud VPS Hosting ที่เป็น Server ที่สามารถติดตั้ง VPS Server ย่อยเข้าไปได้อีก ซึ่งเหมาะกับธุรกิจ Reseller ที่ให้บริการ Server ย่อยไปอีกทีหรือธุรกิจ Agency ที่ต้องการแบ่งเช่า Server ให้กับลูกค้าอีกที
SSL คือ
เวลาเล่นอินเทอร์เน็ตแล้วเข้าเว็บต่างๆ เราจะเห็นสัญลักษณ์กุญแจหน้าชื่อเว็บใน URL Bar ซึ่งบางเว็บก็มี บางเว็บก็ไม่มี การมีเจ้ากุญแจล็อคตัวนี้ รวมกับ https:// คือการสร้างความมั่นใจให้แก่คนที่เข้าเว็บ ว่า “เว็บไซต์ของฉันปลอดภัยนะ” หรือสร้างความปลอดภัย (secure) โดยผ่านการรับรองจากการทำ SSL นั่นเองค่ะ
อ่านต่อ: ความแตกต่างของ SSL 3 ระดับ
Prototype คือ
คือ แบบจำลองการใช้งานของหน้าเว็บไซต์คล้ายจริง ให้สามารถคลิกได้ หรือเชื่อมจากหน้าหนึ่งไปยังอีกหน้าหนึ่งได้ เพื่อนำไปให้ User “จำลอง” การใช้งานดู หรือที่เรียกว่า Usability Testing หรือ ขั้นตอนก่อนที่จะนำไปสร้าง หรือเขียนโปรแกรมเพื่อให้ใช้งานได้จริง!
Landing Page คือ
คือ หน้าเว็บเพจที่ออกแบบให้ผู้ใช้ได้ทำ เพื่อให้ได้ข้อมูลนำมาซึ่งสิ่งที่เราต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องมีหน้าตาหรือโครงสร้างเมนู ที่จัดวางเหมือนกับเว็บไซต์หลัก ซึ่ง Landing Page ที่เรามักเห็นกันบ่อยๆ เช่น พวกแคมเปญ ที่ลงโฆษณาให้คนเข้ามาลงทะเบียนเพื่อเล่นเกมเพื่อลุ้นรับของรางวัล เป็นต้น
Web Application คือ
คือ แอปพลิเคชันที่ถูกเขียนขึ้นมา เพื่อการใช้งานโหลดหน้า Webpage ต่างๆ ในแท็ปเล็ต หรือสมาร์ตโฟน ได้เร็ว และใช้งานได้ง่ายมากขึ้น และสามารถใช้บริการอยู่บน Intranet ความเร็วตํ่าได้ โดยผ่านการการลดทรัพยากรในการประมวลผล ซึ่งจะถูกปรับแต่งให้แสดงผล เฉพาะส่วนที่จำเป็นเท่านั้น
User Interface คือ
คือสิ่งที่เราได้ดีไซน์ หรือออกแบบส่วนประกอบ Front-end ของหน้าเว็บที่ดูง่าย เพื่อให้ผู้ใช้ได้สัมผัสประสบการณ์ และได้ใช้สอยตามที่เราต้องการ เช่น Facebook ในส่วน UI คือช่องกรอกสถานะ, ปุ่มกดเพื่อโพสต์ข้อความ เป็นต้น
User Experience คือ
คือ การออกแบบประสบการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากที่ผู้ใช้ได้เข้ามาใช้บริการในเว็บไซต์ของเรา ดังนั้นการออกแบบส่วนนี้ ต้องออกแบบให้ดูใช้งานง่าย ลูกค้าจะได้ประทับใจและใช้ของเราไปนานๆ หรือเพื่อให้เกิดมี Loyalty นั่นเอง ซึ่งในทางกลับกัน หากทำ UX ไม่สามารถทำให้ลูกค้าพึงพอใจได้ พวกเขาก็สามารถออกไปหาใช้จากที่อื่นแทน
Wireframe คือ
คือ ภาพร่างของเว็บไซต์ ที่ทำขึ้นเพื่อนำเสนอ และนำมาคุยกันว่า หน้าตาแต่ละส่วนในหน้านั้นๆ จะประกอบไปด้วยองค์ประกอบอะไรบ้าง เช่น รูปภาพ ข้อความ ไอคอน ปุ่ม ฯลฯ ซึ่งขั้นตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องทำให้สวยงาม เพราะหากคุยกันจนฟินแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือส่งไปลงมือ ‘Design’ หน้าตาให้สวยงามขึ้น โดยไม่ผ่านการแก้ Wireframe แล้วนั่นเอง
Front End คือ
คือ ทุกสิ่งที่แสดงผลให้เราสามารถมองเห็นได้ จากบนหน้าเว็บนั่นเอง ซึ่งระบบตรงนี้ถูกสร้างมาจากภาษา HTML & CSS และอาจจะมี Java Script ร่วมด้วย
Back End คือ
คือ Logic ที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่สิ่งนี้ทำให้เว็บไซต์ของเรานั้นทำงานได้จริง ซึ่ง Back-end นั้นสร้างขึ้นจากภาษา PHP, ASP หรือ Ruby เป็นต้น และนอกจากนี้ ยังมีเรื่องของฐานข้อมูล (database) ที่ไว้เก็บข้อมูลของผู้เข้าชม หรือข้อมูลต่างๆ ที่เยอะๆ จากเว็บไซต์ของเรา
CMS คืออะไร ย่อมาจากอะไร
หรือย่อมาจาก Content Management System เป็นระบบ“ระบบหลังบ้าน” ที่จัดการข้อมูลของเว็บไซต์ หรือ บางคนอาจเรียกว่า Backoffice ซึ่งระบบ CMS สมัยนี้ เป็นระบบที่ผู้พัฒนาเว็บ ได้พัฒนาขึ้นมา ให้เราสามารถดาวน์โหลดเอาไปใช้งาน หรือพัฒนาต่อได้ฟรี หรือบางทีอาจมีเสียเงินบ้างนั่นเอง
Caching คืออะไร
เป็นหนึ่งในปลั๊กอิน ที่ช่วยลดภาระของ Server หากคุณต้องการให้เว็บโหลดเร็วขึ้น Cache ช่วยคุณได้ โดยการเก็บข้อมูลซ้ำไว้ เพื่อรองรับการใช้งานครั้งต่อไป โดยไม่ต้องเรียกข้อมูลจากเว็บไซต์ต้นแหล่งอีกครั้ง หรือช่วยไม่ให้ Server รับภาระหนักจนเกิดอาการล่มนั่นเอง
CTA คืออะไร ย่อมาจากอะไร
เป็นคำที่ย่อมาจาก Call to Action หรือการออกแบบสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อย่างเช่น การเขียน Copy Writing การเลือกสี การออกแบบ Layout การเลือกใช้รูปภาพ โดยอาศัยความเข้าใจเกี่ยวกับจิตวิทยา เพื่อต้องการชี้นำให้ผู้ที่เข้ามายังหน้าเว็บไซต์ หรือ Landing Page ทำบางอย่างที่เราต้องการให้เขาาทำ เช่น การให้คลิกปุ่มติดต่อ, กดสั่งซื้อสินค้า หรือกดเพื่อดูรายละเอียดสินค้า เป็นต้น
พร้อมหรือยังที่จะลองทำ เว็บไซต์ของตัวเอง เราเชื่อว่า เพียงคุณรู้จัก 15 คำศัพท์นี้ พร้อมๆ กับได้เรียนรู้และลองทำไปพร้อมๆ กัน คุณจะสามารถเป็นเจ้าของข้อมูล หรือเว็บไซต์ได้ไม่ยากเลยล่ะค่ะ